โดย ชลลดา ทองทวี เครือข่ายจิตตปัญญาศึกษา ContemplativeEducation@yahoo.com
คอลัมน์ ณ พรมแดนแห่งความรู้ โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐
----------------------


เรื่องของชาร์ลี บราวน์ สนูปปี้ และเพื่อนๆ ในการ์ตูน Peanuts ของ Charles M. Schulz ซึ่งผู้เขียนชอบอ่านมาก มีตอนหนึ่งที่พูดถึงความหมายของความรัก โดยตัวการ์ตูนบางตัวนั่งอธิบายคำว่า ความรัก ด้วยนิยามต่างๆ เช่น รัก คือ ผ้าห่มเก่าๆ ที่เค้าติดและลากไปไหนมาไหนด้วยตลอด ซึ่งทำให้เราอ่านแล้วอมยิ้มไปด้วย
เราดูจะพยายามนิยามความรักกันมาทุกยุคทุกสมัย ในหลายรูปแบบ มีเพลงหลายเพลงบอกเล่าว่า รัก คืออะไร รักคือ คำๆ นี้.. รักคือความผูกพัน คือ ความจริงใจให้กัน..

ในวงสนทนากับนักศึกษากลุ่มหนึ่ง เด็กๆ ถามกันว่า ความรัก เปรียบเสมือนสมการที่ไม่ว่าจะให้กันอย่างไร ทั้งสองฝ่ายของสมการ จะต้องได้เท่ากันเสมอ หรือว่าความรักจะเปรียบเสมือนแก้วน้ำสองใบ ถ้าให้อีกฝ่ายไป อีกฝ่ายก็จะต้องมีน้อยลง จึงไม่อาจได้เท่ากันได้ทั้งสองฝ่าย แต่ว่าแต่ละคนเติมให้อีกคนเต็มได้ ถ้าต้องการ แม้ว่าจะต้องสูญเสียสิ่งที่ตนเองมีไปบ้าง

บางคนเลือกตอบว่า แก้วน้ำนั้นอาจไม่ได้มีแค่สองใบอย่างที่เราคิด คือมีแต่เขาและเรา แต่อาจจะมีอยู่อีกหลายแก้ว และเขาก็ต้องเติมเต็มความรักให้อีกหลายคนที่ไม่ใช่เรา ความรักจึงไม่ใช่การคำนวณการให้และรับให้เท่าเทียมกันระหว่างคนแค่สองคน แต่เป็นการยอมรับความรักจากคนๆ หนึ่ง ตามวาระของเขามากกว่า ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร

หลายคนกลับตอบว่า ความรักยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเก็บไว้ในแก้วน้ำหรือคำนวณเป็นตัวเลขในสมการได้ และความรักสามารถให้ได้ไม่มีวันหมด เราอาจรักคุณพ่อ คุณแม่ คนรัก และเพื่อนๆ พร้อมๆ กันได้ โดยไม่ต้องเลือกแบ่งให้แก่ใคร และไม่ต้องสูญเสียมันไปจากตัวเราเอง

ในการพูดคุยกับเพื่อนบางคนในอีกวงหนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งอธิบายว่า ความเจ็บปวดที่เราได้รับจากความรักนั้น เป็นเพราะเรารักแบบมีเงื่อนไข ต้องการได้รับความรักของอีกฝ่ายตอบแทน ความรักไม่ได้ทำให้เราเจ็บปวด แต่เป็นความคาดหวังของเราต่างหาก ที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดเช่นนั้น

ดูเหมือนว่าเราจะพยายามปิดฉลากความรักด้วยคำอธิบายต่างๆ และบางครั้งทำให้คิดถึงคำพูดหนึ่งของนายยิ่ง ลูกชายของพี่ใหญ่ วิศิษฐ์ วังวิญญู ที่บอกว่า “เราไม่ควรฆ่าคำถามดีๆ ด้วย คำตอบห่วยๆ” ความรักที่เกิดขึ้นในใจของคนๆ หนึ่ง ไม่ใช่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ทุกๆ วัน และคุณค่าของมัน การสัมผัสกับความอบอุ่นและพลังอันนั้น และเดินทางไปกับความรักนั้นไปเรื่อยๆ ด้วยใจที่เปิดกว้าง น่าจะมีความสำคัญ กว่าการพยายามทำความเข้าใจและนิยามความรักนั้น

มีคนถามว่า ถ้าวันหนึ่ง มีนางฟ้าใจดีองค์หนึ่งมอบจักรวาลให้เป็นของขวัญในมือของเรา ขณะที่ในใจของเราวันนั้น กำลังโกรธเพื่อนคนหนึ่งอยู่มาก ที่เขาทำอะไรโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของเรา เราโกรธจนยากที่จะชื่นชมหรือรักเขาได้เหมือนวันอื่นๆ เมื่อเรามีจักรวาลอยู่ในมือเป็นของขวัญแบบนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรกับเพื่อนคนนี้

เราจะหยิบเขาโยนออกไปหรือ ในกล่องของขวัญใบนี้มีทั้งสิ่งที่สวยงามถูกใจ และไม่ถูกใจ แต่ว่าก็ล้วนแต่เป็นของขวัญ และแม้ของขวัญที่เราไม่ชอบ คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้โยนของขวัญทิ้งไป

ชีวิตของเราเป็นข่ายใยที่ไม่อาจแบ่งแยกออกจากจักรวาลและคนอื่นได้ ดังที่ท่านติช นัท ฮันห์ กล่าวไว้ ถึงการ “เป็นดั่งกันและกัน (Interbeing)” ของสรรพสิ่ง หากจักรวาลเป็นของขวัญในมือของเรา และเราก็เป็นหนึ่งในจักรวาลนั้น ความรักจะอยู่ในเนื้อในตัว โดยไม่ต้องตั้งคำถาม และไม่อาจพิจารณาวิเคราะห์มองดูด้วยสายตา สิ่งที่เราจะทำได้ คงมีแต่เพียงการดำรงอยู่ในความรัก ดังที่เป็น ในทุกสิ่งทุกอย่าง เท่านั้น

ก็คงจะเป็นทำนองเดียวกันกับเรื่องแก้วน้ำของความรัก ถ้าเรายังมองเห็นความรักของเขา และของเรา แบ่งเป็นแก้วน้ำสองแก้ว หรือหลายแก้ว และดูว่าใครจะเติมใครให้เต็ม เราอาจจะเหนื่อยล้าจากการชั่ง ตวง วัด นี้ได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ถ้าความรักของเราและเขา รวมทั้งทุกๆ คน เป็นน้ำในแก้วใบใหญ่ใบเดียวด้วยกัน เราไม่ต้องเติมใครให้เต็ม ในแก้วน้ำใบเดียวกัน และเราไม่ต้องมอบความรัก เพราะไม่มีสิ่งที่ถูกรัก ซึ่งแยกออกไปจากตัวเรา

ความรักจึงอาจไม่ใช่ปัญหา “อะไรเอ่ย” ที่เล่นเกมยี่สิบคำถามแล้วจะได้คำตอบ ความรักอาจจะไม่ใช่ “ปัญหา” เลยก็ได้ แต่เป็นคำตอบในตัวเองเสมอ

สิ่งที่สำคัญคงไม่ใช่การพูดคุยโต้แย้งกันเรื่องความรัก ทั้งของเขาและของเรา แต่เป็นการมีความรักนั้นไว้ในหัวใจ มีทฤษฎีร้อยพันที่อาจจะอธิบายไอศกรีมก้อนหนึ่งได้ แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเทียบเท่าการสัมผัสไอศกรีมนั้น ด้วยการตักมันเข้าไปในปาก และให้ละลายไปบนลิ้นของเราเอง เช่นเดียวกับความรัก ในเวลาที่เราสัมผัสกับมันด้วยหัวใจ

แม้แต่การพูดคุยถึงความรักอย่างสวยงาม เช่น การโอบกอด (embrace) ทุกสรรพสิ่งอย่างที่เป็น การมีความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข (unconditional love) และการศิโรราบ (surrender) ก็ไม่มากมายและละเอียดลึกซึ้งพอเท่ากับการสัมผัสมันโดยปราศจากถ้อยคำ คำถาม คำตอบ และความคิด สักชั่วขณะหนึ่ง

ลองปล่อยให้ความรักมีวาระของมันเอง ที่ไม่ใช่วาระของเรา หรือวาระของเขาดูบ้าง และลองเข้าใจอะไรบางอย่างที่อธิบายให้คนอื่นฟังไม่ได้ และฟังคนอื่นอธิบายก็ไม่อาจเข้าใจได้ดูสักครั้ง

สุขสันต์วันแห่งความรัก ในทุกๆ วัน รวมทั้งตรุษจีนวันนี้ด้วยค่ะ..

0 Comments:

Post a Comment



Newer Post Older Post Home