โดย ธีระพล เต็มอุดม เครือข่ายจิตตปัญญาศึกษา ContemplativeEducation@yahoo.com
คอลัมน์ ณ พรมแดนแห่งความรู้ โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐
----------------------------
วันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักใกล้เข้ามาทุกที นอกเหนือจากปฏิทินของเดือนกุมภาพันธ์และโฆษณาของห้างร้านตามสื่อต่างๆ แล้ว ยังมีสัญญาณเกริ่นนำเข้าสู่เทศกาลนี้ที่เราพบเห็นได้ง่ายและบ่อยขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลต บัตรอวยพร สิ่งของกระจุกกระจิกรูปหัวใจ และที่ขาดไม่ได้คือดอกกุหลาบ อันเป็นสัญญลักษณ์โดดเด่นที่สุดแห่งเทศกาลนี้
วันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักใกล้เข้ามาทุกที นอกเหนือจากปฏิทินของเดือนกุมภาพันธ์และโฆษณาของห้างร้านตามสื่อต่างๆ แล้ว ยังมีสัญญาณเกริ่นนำเข้าสู่เทศกาลนี้ที่เราพบเห็นได้ง่ายและบ่อยขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลต บัตรอวยพร สิ่งของกระจุกกระจิกรูปหัวใจ และที่ขาดไม่ได้คือดอกกุหลาบ อันเป็นสัญญลักษณ์โดดเด่นที่สุดแห่งเทศกาลนี้
หากเห็นชายหนุ่มหญิงสาวสักคนกำลังถือช่อกุหลาบโดยเฉพาะอย่างยิ่งกุหลาบสีแดงในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ เราแทบจะสิ้นสงสัยว่าเจ้าของดอกไม้ผู้นั้นคงเตรียมไปบอกรักใคร หรือไม่เช่นนั้นคงได้รับบอกรักจากใครสักคนมาแล้วเป็นแน่แท้
เรานึกทึกทักได้ทันทีถึงเพียงนั้น?
โอกาสที่จะทำนายทายผิดนั้นใช่ว่าจะไม่มี เจ้าของมือที่ถือช่อกุหลาบอาจเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายดอกไม้ก็เป็นไปได้ หรือในอีกทาง ถ้าเห็นเขาถือช่อดอกไม้ชนิดอื่น เราก็จะไม่คาดเดาว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบอกรักกระมัง
กุหลาบจึงมีความแตกต่างไปจากดอกไม้อื่น ทั้งที่ตัวของมันเองเป็นเพียงไม้ดอกอีกพันธุ์หนึ่ง มีกลีบมีสีสันเช่นกันกับบุปผานานาพันธุ์ทั่วไป สิ่งที่ทำให้ต่างออกไปเพราะมนุษย์เราได้ให้ “ความหมาย” กับดอกไม้นี้ไปแล้ว ความหมายว่ากุหลาบคือสื่อบ่งบอกถึงความรัก และเป็นรักระหว่างหนุ่มสาวเสียด้วย ดอกไม้ธรรมดาที่ไม่ธรรมดานี้จึงมีความหมายมากกว่าตัวของมันเอง
ในชีวิตประจำวันพวกเราล้วนได้ให้ความหมายกับสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา รถยนต์ไม่ได้เป็นแค่พาหนะพาเราไปจุดหมายแต่เป็นเครื่องบ่งชี้ฐานะของผู้ครอบครอง เสื้อเหลืองเป็นสัญลักษณ์ถึงความจงรักภักดีและเทิดทูนบูชาต่อในหลวง บรรดาสิ่งของ สถานที่ บุคคลและทุกสิ่งมีความหมายต่อเรา เพราะมนุษย์เรานี้เองเป็นผู้ให้ความหมายนั้น
ในแวดวงวิชาการและวงการศึกษาใช้วิธีการให้ความหมายในลักษณะจำกัดให้ชัดขึ้นว่าเป็นการ “นิยาม” เพราะการนิยามมีประโยชน์ช่วยให้ได้ความชัดเจนในสิ่งที่ศึกษาค้นคว้า งานวิจัยทั้งหลายต้องนิยามให้คำหรือแนวคิดที่ใช้ไม่คลุมเครือ ให้การถกเถียงแลกเปลี่ยนอยู่บนเรื่องหรือประเด็นเดียวกัน สำหรับการเข้าใจปรากฏการณ์ต่างๆ บนโลก สามารถอธิบายถึงเหตุผลที่มา และสามารถประเมินค่าวัดผลของสิ่งต่างๆ ออกมาได้
ความรู้ของเราเกิดขึ้น พัฒนาและสั่งสมมาเป็นลำดับด้วยวิธีการนี้ เราสามารถใช้คำๆ เดียวนิยามให้หมายรวมถึงสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งได้ เรานิยามคำว่าความสัมพันธ์ทางสังคมไว้หลายระดับ ตั้งแต่ระดับแนวคิดทฤษฎี ลงไปจนถึงนิยามเชิงปฏิบัติการสำหรับการวิจัยในขอบเขตพื้นที่และระยะเวลาหนึ่ง เมื่อพูดคำว่าเศรษฐกิจทุกคนมีความเข้าใจเบื้องต้นร่วมกัน
การนิยามยังทำให้เราสามารถแจกแจงส่วนประกอบของสิ่งของหรือเรื่องใดๆ ได้ นำไปสู่ความสามารถในการวัดผล การประเมินผล การตีมูลค่าของสิ่งนั้นได้ด้วย
แต่สำหรับสิ่งของหรือสถานที่บางอย่างที่จับต้องได้ชัดเจน เรากลับไม่สามารถประเมินค่าตีราคาออกมาได้ บางครั้งตัดใจขายออกไป เราถึงกับเสียดายในภายหลัง เพราะไม่ใช่ทุกอย่างที่เราจะพิจารณาตามปัจจัยส่วนประกอบของมันแล้วประเมินราคาออกมาสมดังใจเราได้
อาคารไม้ชั้นเดียวอายุ ๓๐ ปี ปลูกสร้างบนที่ดินขนาด ๔๐ ตารางวาอยู่ในซอยตัน อาจมีมูลค่าไม่ถึงล้านบาท แต่สำหรับเจ้าของผู้อาศัย ที่นี่คือบ้านอันเปี่ยมล้นด้วยความอบอุ่นและความทรงจำของครอบครัวจากรุ่นปู่สู่รุ่นหลานซึ่งประเมินค่าตีราคาไม่ได้
เพราะสิ่งนั้นมี “คุณค่า” สำหรับเรา เรื่องราวหรือสิ่งของที่เกี่ยวพันกับคุณค่ามักจะเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถให้นิยามได้แน่นอนตายตัว เรารู้แต่ว่ามันมีความหมายต่อเรา จนไม่อาจหามาตรวัดมาระบุปริมาณหรือบอกลักษณะได้ อย่างเช่นความรัก
เราไม่เคยได้นิยามความรักให้กระจ่างออกมาเป็นตัวอักษร ไม่เคยมีการเรียนการสอนในชั้นเรียนการศึกษาภาคบังคับว่าความรักคืออะไร มีองค์ประกอบใดบ้าง อะไรคือคุณลักษณะเฉพาะ แบ่งออกได้เป็นกี่หมวดหมู่ และมีความสำคัญอย่างไร
ทว่าทุกคนเข้าใจ และยอมรับว่ามันมีอยู่จริง ทุกคนรู้จักความหมายของความรักโดยไม่ต้องนิยาม เพราะต่างรู้ซึ้งในใจดีว่าเป็นสิ่งที่มี “คุณค่า” กับเราแต่ละคน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราได้สัมผัสกับความรักโดยตรง เมื่อแม่โอบกอดเราอย่างอ่อนโยนทะนุถนอม เมื่อพ่อจับมือจูงเราเดินอย่างมั่นคงปลอดภัย เมื่อได้รับความปรารถนาดีและการเอาใจใส่จากคนอีกผู้หนึ่ง เราสิ้นสงสัยว่าความรักมีอยู่จริงหรือไม่
จิตใจของเรา ชีวิตด้านในหรือจิตวิญญาณของเราก็เฉกเช่นกัน เราตระหนักว่ามันมีอยู่และทรงคุณค่า
การเรียนรู้แบบจิตตปัญญาศึกษาอันว่าด้วยการเรียนเรื่องภายนอกตัว ศึกษาวิชาศาสตร์ต่างๆ ควบคู่กับการน้อมนำเข้ามาสู่ใจ การใคร่ครวญภายในตัวเอง จึงเป็นการเรียนรู้ที่เกี่ยวพันกับการให้ความหมายและการมีคุณค่าสำหรับคนแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องพยายามสร้างนิยามสิ่งเหล่านี้ออกมาให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้แจกแจงชี้วัดกำหนดประเมินได้
การเรียนรู้แบบจิตตปัญญาศึกษาอันว่าด้วยการเรียนเรื่องภายนอกตัว ศึกษาวิชาศาสตร์ต่างๆ ควบคู่กับการน้อมนำเข้ามาสู่ใจ การใคร่ครวญภายในตัวเอง จึงเป็นการเรียนรู้ที่เกี่ยวพันกับการให้ความหมายและการมีคุณค่าสำหรับคนแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องพยายามสร้างนิยามสิ่งเหล่านี้ออกมาให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้แจกแจงชี้วัดกำหนดประเมินได้
เพราะแหล่งความรู้สำคัญนั้นอยู่ในตัวและเกิดแต่ตัวผู้เรียนเมื่อเขาได้สัมผัสมีประสบการณ์ตรง เป็นความรู้ที่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราและมีคุณค่ากับเราดังเช่นความรักมี หาไม่แล้วคงจะด้อยค่าและไร้ประโยชน์หากไม่มีความหมายต่อชีวิตและสิ้นคุณค่าต่อจิตใจคน
Labels: ธีระพล เต็มอุดม
0 Comments:
Subscribe to:
Post Comments (Atom)