โดย เจนจิรา โลชา
เครือข่ายจิตตปัญญาศึกษา ContemplativeEducation@yahoo.com
คอลัมน์ ณ พรมแดนแห่งความรู้ โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ในโลกที่กว้างใหญ่มีความงดงามเกิดขึ้นมากมาย ทั้งตามธรรมชาติ สิ่งสวยงามที่มนุษย์รังสรรค์ขึ้นมา ความงามในจิตใจของมนุษย์ที่มีต่อกัน คงไม่อาจบรรยายได้หมดว่ามีสิ่งใดบ้างที่เป็นความงดงาม สำหรับบางคนแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านบางๆ ตรงหน้าต่างก็เป็นความงดงามที่จับใจ แสงแดดผันเปลี่ยนไปทุกวินาที แสงสวยแตกต่างกันไปในแต่และห้วงขณะ สิ่งที่ดูพื้นๆ ธรรมดาๆ นี่เอง กลับกลายเป็นความงดงามที่เข้ามาชโลมดวงใจ และจะดีสักเพียงใดหากเราลองนำสิ่งที่แฝงซ่อนอยู่ในความงดงามนั้นมาช่วยขัดเกลาจิตใจของเราให้อ่อนโยนลง
ลองให้สิ่งสวยงามที่ดูจะหาได้ง่ายๆ และมีมากหลาย อย่าง “ดอกไม้” ทำให้ความงามมาปรากฏในจิตใจของเราดูบ้าง ลองปล่อยใจไปกับดอกไม้ ลองมาจัดดอกไม้ด้วยกัน เราอาจพบแง่มุมของดอกไม้ที่มีมากกว่าความงามก็เป็นไปได้
หลายคนอาจจะเคยยืนชมดอกไม้เพียงผิวเผิน มองดูอยู่ห่างๆ ลองมาชื่นชมดอกไม้ใกล้ๆ ด้วยสายตาคู่เดิมที่มีมุมมองใหม่ๆ บางคนอาจจะเคยจัดดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นจัดแจกันดอกไม้ถวายพระพุทธรูป แจกันตั้งโต๊ะที่ทำงาน ลองมาจัดดอกไม้ด้วยมือคู่เดิมที่เชื่อมโยงสัมผัสมาจากหัวใจ ไม่ใช่เพียงแค่จากความคิด เราจะพบว่าความงามของดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้า เกิดขึ้นมาจากใจของเรานั่นเอง
ดอกไม้แต่ละชนิดล้วนแตกต่างกัน แม้จะเป็นพันธุ์เดียวกันแต่ละดอกก็มีความแตกต่างกัน มีความเฉพาะ เป็นตัวของตัวเอง เขาจะออกดอก ผลิบาน หรือโรยราลงเมื่อใด เราไม่อาจจะไปบังคับหรือฝืนใจเขาได้ ดอกไม้จะมีสีหรือกลิ่นอย่างไรเราไม่อาจคาดเดาได้ และความเป็นดอกไม้เช่นนี้เองที่ดึงดูดใจให้เราลองเข้าไปสัมผัสกับดอกไม้อย่างใกล้ชิด ไม่ใช่การสัมผัสผ่านความคิด สัมผัสดอกไม้ในมุมที่ไม่เคยสัมผัส ดูดอกไม้อย่างละเอียดลอออย่างที่ไม่เคยคิดจะดู ผิวก้านนั้นเรียบ หยาบ ขรุขระ หรือมีหนามแหลม สีกลีบดอก กลีบเลี้ยงและใบ ลักษณะของดอกเป็นช่อ เป็นพวง หรือเป็นดอกเดี่ยว ดอกเกิดจากส่วนไหนของกิ่งก้าน ดูดอกไม้ในมุม ๓๖๐ องศา มุมไหนกันที่ดอกไม้สวยที่สุด
หลายครั้งที่เรามักจะคิดว่าดอกไม้ควรมีสีอย่างนี้ ขนาดเท่านั้น ใบควรสั้นกว่านี้ กลิ่นน่าจะเป็นแบบนั้น เราต้องการให้ดอกไม้เป็นดั่งใจที่เราต้องการ การที่เราอยู่กับดอกไม้ พิจารณาตามที่เขาเป็นจะทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของเขา ยอมรับและไม่บังคับฝืนใจเขา แล้วเราจะค้นพบว่าอย่างไรดอกไม้ก็สวยและงดงามตามธรรมชาติของเขา
เราเป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กๆ ธรรมดาๆ ที่ไม่อาจทัดทานความงดงามตามธรรมชาติของดอกไม้ด้วยการดัดแปลงเสริมแต่งหรือบังคับเขาได้เลยแม้แต่น้อย หน้าที่ของเรามีเพียงการทำให้ความงามปรากฏตามที่เขาเป็น ให้ส่วนสวยที่สุดแสดงออกมาให้คนอื่นได้รับรู้เท่านั้น และเมื่อเราสัมผัสกับดอกไม้อย่างใกล้ชิดด้วยหัวใจเช่นนี้ ความอ่อนโยนได้เกิดขึ้นภายในใจของเราอย่างเงียบๆ เราจะลูบไล้เขาด้วยมือที่แสนเบาและด้วยสายตาที่แสนอ่อนโยน จะดอมดมดอกไม้เหมือนดั่งกับว่าจะไม่มีโอกาสได้สูดกลิ่นหอมเช่นนี้อีกครั้ง ความอ่อนโยนของดอกไม้ถ่ายผ่านมาสู่ตัวเรา หากเราเฝ้าสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นภายในตัวเราจะพบว่า ลมหายใจของเราจะละเอียดอ่อน เบา ร่างกายจะเคลื่อนไหวอย่างเนิบช้า เต็มไปด้วยการมีสติ ความมหัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกคล้ายกับว่าเราสื่อสารกับดอกไม้ได้ เราเข้าใจกันและกัน
เมื่อเราดำรงอยู่กับดอกไม้อย่างที่เขาเป็น ยามที่เราจะนำดอกไม้ไปจัดในแจกันนั้น จะทำให้เราสามารถดึงเอาความสวยงามของเขาออกมาแสดงให้เห็นได้ในมุมที่เขาสวยที่สุด เราจะจัดวางเขาได้อย่างง่ายดายและเหมาะเจาะ คล้ายกับทั้งคู่รู้ดีว่าตรงไหนเป็นที่ที่เหมาะกับเขาที่สุด และจะเป็นแจกันดอกไม้ที่สวยงาม งามในสายตา งามจากหัวใจของเราเอง
แม้เราจะรู้ถึงธรรมชาติและสัมผัสกับดอกไม้ด้วยหัวใจเพียงใด แต่กระนั้น บ่อยครั้งที่เราจัดวางดอกไม้ลงไป ดอกไม้ก็มักจะเอียงซ้าย เอนขวา หมุนไปมา คว่ำหน้า โงนเงนไปข้างหลังบ้าง ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวัง ไม่เป็นดั่งใจที่เราวางไว้ เพราะสิ่งที่ดอกไม้เป็นมักจะขัดกับใจของเรา เพราะดอกไม้ขัดใจเรา ดอกไม้จึงมาช่วยจัดใจของเรา ให้เราได้เปิดใจกว้างยอมรับ ไม่บังคับดอกไม้ให้เป็นดั่งใจปรารถนา
สิ่งที่เราจะทำได้คือ ทำความรู้จักและอ่อนโยนกับดอกไม้เพิ่มมากขึ้น ลองหยิบดอกไม้ออกมามองและพิจารณาอีกครั้ง วางดอกไม้ในแจกันด้วยใจที่ปล่อยวาง ไม่คาดหวังว่าจะต้องสวยอย่างที่ใจเราต้องการ เพียงแค่ให้ดอกไม้สวยตามที่ดอกไม้เป็น เพิ่มความอ่อนโยนและวางใจในตัวเองและดอกไม้มากขึ้น ปล่อยใจดอกไม้ขัด (เกลา) ใจของเรา ให้ความสวยงามของดอกไม้โบยตีตัวตนที่เต็มไปด้วยความคาดหวังที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างใจของเรา ให้ความอ่อนโยนของดอกไม้มาฝึกให้เราอ่อนโยนกับตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น และให้ความเป็นตัวของตัวเองของดอกไม้มาสอนให้เราได้รู้จักตัวเราในแบบของเรา เราจะมองเห็นความเป็นตัวตนของเราผ่านการจัดดอกไม้ หากเราจัดดอกไม้ด้วยหัวใจ และเฝ้าสังเกตตัวเอง เราจะรู้ได้ว่า ดอกไม้ได้ขัด (เกลา) ใจของเราแล้ว
การสัมผัสรับรู้ดอกไม้ตามที่เป็นจะนำมาซึ่งความเข้าใจ การยอมรับกันและกันอย่างไม่มีเงื่อนไข จนเรากลายเป็นหนึ่งเดียวกับดอกไม้ เป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่เรากำลังทำ แล้วเราจะมองเห็นความงามของดอกไม้ที่มีอยู่ในทุกขณะ จะพบว่าดอกไม้อยู่ตรงไหนก็สวย เพราะความงามนั้นเกิดขึ้นจากใจ แม้ดอกตูมที่เราชื่นชอบ เมื่อเริ่มบานก็ยังคงความงามอยู่ ที่สำคัญการจัดดอกไม้ด้วยหัวใจเช่นนี้ทำให้สถานที่ที่เราจัดวางแจกันเกิดความงามขึ้นมาในทันใด ผู้คนที่เดินผ่านเข้ามาก็จะรับรู้ได้ถึงความสวยงามของดอกไม้ ความใส่ใจและความอ่อนโยนที่เรามีต่อดอกไม้ ความสวยงามนี้จะเป็นตัวเชื่อมผ่านความงามเข้าสู่ใจของผู้คนที่พบเห็น ความงามถูกส่งผ่านไปยังอีกคนและอีกคน คล้ายกับดอกไม้มีมนตราวิเศษ ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่มีความอ่อนละมุนและแข็งแกร่งในตัว อ่อนน้อมแต่ก็เป็นตัวของตัวเอง ดอกไม้จึงขัดใจเราด้วยความอ่อนโยน ชโลมหัวใจเราด้วยความสวย นี่แหละ คือ พรอันวิเศษของดอกไม้ที่มีให้แก่เรา
เมื่อเราได้รับการขัดใจจากดอกไม้ เราจะเริ่มเห็นความงดงามของแจกัน สถานที่จัด และรู้สึกว่าทุกสิ่งที่ดำเนินอยู่ทุกขณะเวลาเป็นสิ่งสวยงาม แม้แต่ป้ายรถประจำทาง หรือสองข้างทางที่ร้อนระอุ ก็ปรากฏความงามของดอกตะแบกบานที่พลิ้วไหวตามแรงลมพัดพา เราจะเริ่มชื่นชมดอกไม้เล็กๆ ริมทาง เราจะลดการตัดสินว่าดอกนี้สวย ดอกนั้นไม่สวย เราจะไม่ตำหนิคนอื่นว่าเขาไม่คู่ควรกับการจัดดอกไม้ และหากเราอยู่กับสิ่งที่ทำด้วยหัวใจ สัมผัสและเห็นสิ่งต่างๆ ตามที่มันเป็น เราจะแลเห็นความงดงามของสิ่งที่อยู่รายล้อม ไม่ว่าผู้คน สิ่งของ หรือแม้อากาศที่ผันแปร แสงแดด สายลม ละอองฝน ทุกอย่างดูจะสวยงามและสามารถนำความเป็นไปของทุกสิ่ง มาขัดเกลาจิตใจของเราได้ ใช้ทุกสิ่งที่ไม่เป็นไปอย่างใจมาใช้ฝึกความวางใจและอ่อนโยนกับตัวของเราเองและกับทุกสิ่ง
ขอบคุณทุกความงามที่ปรากฏอยู่ในโลกนี้ ขอบคุณดอกไม้ที่เป็นหนึ่งในความงดงามนั้น ขอบคุณที่มาขัดใจ จนการเป็นการจัดใจของเราให้รับรู้ทุกอย่างตามที่เป็นจริงมากขึ้น ขอบคุณทุกหัวใจที่ยอมให้ดอกไม้ขัดใจ จนเกิดเป็นความงามในหัวใจของมวลมนุษย์
ปล่อยให้สิ่งต่างๆ มาขัดใจเราบ้างนะคะ เราอาจพบว่าแท้ที่จริง ใจเรานั่นเองที่งดงามเหลือเกิน
Labels: เจนจิรา โลชา